พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์ชี้แจง ก้าวข้ามอาเซียน ย้ำแนวคิดส่งเยาวชนบู๊เก็บประสบการณ์ ก่อนที่ตอนนี้จะถูกนำมาตีความและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
“ในความหมายของผม การก้าวข้ามอาเซียน คือ การเปิดโอกาสให้กับนักเตะดาวรุ่ง หน้าใหม่ได้มีโอกาสสัมผัสเกมการแข่งขันฟุตบอลรายการระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ ทั้งนี้ ยังเป็นเวทีให้พวกเขาได้ลงเล่นในแมตช์นานาชาติ และเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งการเปิดโอกาสนั้น อาจจะไม่ได้การันตีหรือคาดหวังผลการแข่งขัน ได้เท่ากับการนำผู้เล่นระดับท็อปไปแบบฟูลทีม”
“ฟุตบอลระดับอาเซียน มักจะจัดแข่งขันทัวร์นาเมนต์นอกฟีฟ่าเดย์ หรือถ้าเป็นรายการที่จำกัดอายุก็จะไม่มีผลต่อการนับแรงกิ้งฟีฟ่า การขอผู้เล่นตัวหลักจากสโมสรเป็นเรื่องที่นอกเหนือระเบียบ และเป็นสิ่งที่ผมเข้าใจสโมสรในจุดนี้เป็นอย่างดี การที่เราทำทุกสิ่ง ต้องหยุดทุกอย่าง แลกกับการได้มาซึ่งผลการแข่งขันระดับอาเซียน แล้วระบบฟุตบอลอาชีพต้องมีผลกระทบ ผมไม่เห็นด้วยและนี่คือที่มาของการก้าวข้ามอาเซียน”
“ที่กล่าวมานั้น ขอชี้แจงให้ชัดเจน ว่า เราไม่ได้มองข้าม หรือไม่สนใจการแข่งขันของทีมชาติไทย แต่เราจะทำให้ดีที่สุด และได้ประโยชน์สูงสุด จากทัพนักกีฬาที่เราส่งไปร่วมแข่งขัน โดยไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับการพัฒนาฟุตบอลอาชีพของไทย”
“ดังนั้น ผมจึงต้องการใช้ฟุตบอลรายการในระดับภูมิภาคเหล่านี้ ให้ทีมชาติไทยได้เรียกตัวดาวรุ่งหรือเยาวชนรุ่นใหม่ ให้ทีมชาติไทยมีจำนวนผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในแมตช์นานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ครั้ง เพื่อให้ทีมชาติไทยของเรามีตัวเลือกมากขึ้นอยู่เสมอในอนาคต ไม่ต่างอะไรกับหลากหลายประเทศที่เลือกใช้วิธีการนี้”
“ขณะที่ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ นักเตะตัวหลักเหล่านี้ต้องรับใช้สโมสรต้นสังกัดในลีกอาชีพและฟุตบอลถ้วยต่างๆ ในแต่ละฤดูกาลจะต้องลงสนามไม่น้อยกว่า 30-40 นัด ก็จะมีเวลาพอเพียงสำหรับฟื้นฟูร่างกาย สำหรับการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญๆ ที่อยู่ในช่วงปฏิทินฟีฟ่า เพื่อเป้าหมายในระดับเอเชีย หรือสูงกว่านั้น”
“ผมยังยืนยันว่าสมาคมและบริษัท ไทยลีก ให้ความสำคัญกับสโมสรสมาชิก พร้อมให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ในทุกมิติ ลดความขัดแย้ง สร้างความร่วมมือกับสโมสร ทุกภาคส่วน เพื่อให้ทุกสโมสรมีการพัฒนา โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพของการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ผู้ตัดสินที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีฟุตบอลต่างๆ วีเออาร์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศ เติบโตเป็นศูนย์กลางฟุตบอลในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อทีมชาติไทยของเราในวันข้างหน้าด้วย”
“ผมขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า เพียงลำพังตัวผม สมาคม บริษัทไทยลีก ไม่สามารถผลักดัน นำพาหรือพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้เดินไปข้างหน้าได้เลย หากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจ การสนับสนุนจากรัฐบาล สปอนเซอร์ สโมสรสมาชิก สื่อมวลชน แฟนบอล ผู้ให้การสนับสนุน จากทุกๆ ภาคส่วน ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองในการที่จะขับเคลื่อนให้วงการฟุตบอลไทยพัฒนาไปข้างหน้าอย่างแท้จริง”